จากตุ๊กตาหมีทำมือ สู่ธุรกิจของน่ารักกุ๊กกิ๊กภายใต้แบรนด์ KAZEhandicraft ที่โดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เติมไอเดียคอนเซปท์รักษ์โลก

ความชอบโมเดลการ์ตูน ฟิกเกอร์ ตุ๊กตา และของน่ารัก ๆ ผลักดันให้ ‘เลอเกียรติ ยะมุงคุณ’ ทดลองทำตุ๊กตาหมีเล็ก ๆ จำนวน 111 ตัว ไปเสนอร้านสินค้าไอเดียอย่างลอฟท์ (LOFT) เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดี

ผลจากความคิดสร้างสรรค์และความกล้าที่จะลงมือทำ ก่อให้เกิดเป็น ‘KAZEhandicraft’ ในทุกวันนี้

: ดีไซน์ในความต่าง

เลอเกียรติ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KAZEhandicraft ชี้ว่า ตนเองไม่ชอบระบบงานแบบออฟฟิศ บวกกับชอบประดิษฐ์ประดอย ทำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ขายตั้งแต่เด็ก และก็ชอบมาจนโต จึงต่อยอดมาเรียนด้านสถาปัตยกรรม และคิดที่จะทำอาชีพจากความชอบ

เขาเริ่มลงมือทำตุ๊กตาหมีเล็ก ๆ แบบที่ขยับแขนขยับขาได้ 111 ตัวแล้วไปนำเสนอที่ร้านลอฟท์ ซึ่งผลตอบรับดี ก็พัฒนาแบบมาเรื่อย ๆ พร้อมกับสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา จนมีโอกาสได้เข้าไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ

จุดเด่นของ KAZEhandicraft คือ งานดีไซน์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ เลอเกียรติในฐานะผู้อำนวยการด้านการออกแบบอธิบายว่า คาเซ่สร้างคาร์แรกเตอร์ที่ชัดเจน ตุ๊กตาที่ออกแบบก็ไม่ใช่ หมี หมา หรืออื่น ๆ ที่รูปร่างหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่จะเป็นการนำเสนอในมุมของคาเซ่

นักออกแบบย้ำว่า ความโดดเด่นของแบรนด์ทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าแล้วรู้เลยว่านี่คือ คาเซ่ เพราะไอเดียที่หยิบจับสิ่งรอบตัวมาสร้างสรรค์ให้คนได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ อาหาร อย่างไข่ดาว ไก่ทอด หรือเรื่องราวของฤดูกาลอย่างหน้าฝนผ่านเมฆ หยดน้ำฝน กบ ก็กลายมาเป็นของใช้ที่น่ารักถูกใจได้

“ตอนนี้ KAZEhandicraft ชัดเจนในคอนเซปท์รักษ์โลก สังคมสีเขียว ซึ่งงานดีไซน์ก็จะมาในรูปของพืชพรรณ และสิ่งรอบข้าง โดยใช้ความรู้สึกรักธรรมชาติ และอยากให้ลูกค้าที่เป็นคนหลายกลุ่ม หลากเพศและวัย ได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน” เลอเกียรติกล่าว

คาเซ่โอ คาร์แรกเตอร์หลักมาในรูปของกระถางต้นไม้ ที่ทำออกมาแล้วได้รับผลตอบรับดีมากก็เพิ่มคาร์แรกเตอร์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกเดซี่ ดอกจอก หยดน้ำ เป็นต้น

“เราดีไซน์ออกมาเป็นคอลเล็คชั่นใหม่ ๆ ทุกเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ ปีใหม่ คริสมาสต์ ซึ่งถือว่าเยอะมาก แต่เป็นการหยิบเอาไอเดียที่คิดเป็นเรื่องราวเอาไว้ตั้งแต่แรกมาต่อยอดออกไป ทำให้สามารถคิดงานออกมาได้ไม่ขาดสาย”

เมื่อคาร์แรกเตอร์หลักแข็งแรงแล้ว KAZEhandicraft ก็ต่อยอดสู่เครื่องเขียน ของใช้ภายในบ้าน ของแต่งบ้าน ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาอีกต่อไป เพราะตั้งเป้าเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค

: การตลาดด้วยใจ

วิเชียร จิตรเหล่าอาพร กรรมการผู้จัดการ KAZEhandicraft กล่าวว่า การตอบรับของสินค้าและตัวแบรนด์ไปได้ดีมาก จากตุ๊กตาที่ดีไซน์เก๋ๆ จับกลุ่มเด็กมัธยมและคนที่ชอบของน่ารักก็สามารถพัฒนาและขยายตัวเป็นสินค้า ไลฟ์สไตล์ที่จับกลุ่มคนทุกแบบได้

“คาเซ่ขยายตัวแบบปากต่อปาก จากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพราะความชอบในตัวดีไซน์ และความนุ่มของผ้าที่เราคัดเลือกเป็นพิเศษ และสีสันที่นำสีที่คนไม่ค่อยนิยมมาใช้อย่างน้ำตาล เขียวเข้ม ทำให้โดดเด่น”

ที่สำคัญคือ งานฝีมือทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งเพราะ 40% ของสินค้าคาเซ่จะเป็นงานทำมือ เช่น สมุด กระเป๋า ตุ๊กตาบางคอลเล็กชั่น ที่ลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน หรือสิงคโปร์ชอบมาก

ปัจจุบัน KAZEhandicraft มีจำหน่ายในเครือเดอะ มอลล์ 7 สาขา, ร้านลอฟท์ทั้ง 3 สาขา รวมถึงมีหน้าร้านเป็นของตนเองที่เทอร์มินัล21 และซีคอน บางแค ซึ่งหน้าร้านที่มีนั้น เป็นช่องทางในการโชว์ไอเดีย แสดงความเป็นคาเซ่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับยอดขาย นายวิเชียรเผยว่า ยอดขายจากห้างถือเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมด และถือเป็น 1 ใน 5 แบรนด์หลักของเดอะมอลล์ ส่วนรายได้อีก 30% ที่เหลือมาจากร้าน 2 ร้านและการขายออนไลน์

"ตลาดต่างประเทศ มีหลายรายที่เสนอจะเปิดร้านและขอเป็นดิสทริบิวเตอร์ แต่เราไม่ได้ต้องการยอดขาย ถามว่าสนใจไหม สนใจ แต่อยากให้เป็นคนที่มีแนวคิดเดียวกัน” วิเชียรกล่าว พร้อมเผยว่า แต่ก็มีหลายรายที่ขอซื้อส่งไปขายที่ประเทศตนเองไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน หรือสิงคโปร์

อนาคต เลอเกียรติมองว่า จะเพิ่มไลน์สินค้าที่เป็นของใช้ประจำวันเพื่อขยายกลุ่มลูกค้า เพราะปัจจุบัน ลูกค้าส่วนมากจะมองหาสินค้าเราไปให้ในช่วงเวลาพิเศษหรือเทศกาล

นอกจากนี้ ยังมีแผนระยะยาวทำร้าน KAZEhandicraft ที่เป็นร้านไลฟ์สไตล์ มีสินค้าคาเซ่ทั้งหมด มีน้ำ ขนมสูตรพิเศษที่คิดขึ้นมา แต่อยู่ระหว่างการดูสถานที่และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดก่อน

แต่แผนระยะสั้นคือ จะเปิดเพิ่มอีก 1 ร้านที่เสนาเพลสภายในปี 2556 นี้

“12 ปีของ KAZEhandicraft เราไม่ได้มองความสำเร็จจากยอดขาย ยอดขายหรือผลกำไรถือเป็นผลพลอยได้เท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับความสุข ทั้งความสุขของเราเองจากการทำงาน และมองเห็นลูกค้าที่มีความสุขกับสินค้าของเรา นั่นคือความสำเร็จที่ได้รับแล้ว” เจ้าของแบรนด์ทิ้งท้าย

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

******************

ที่มา: http://eureka.bangkokbiznews.com/detail/489962